เชื้อ ‘COVID-19’ อยู่ในอากาศได้นานกว่าที่คิด
องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ว่า ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ สามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้
จึงควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายโรคระบาดใหม่และโรคที่รับจากสัตว์ขององค์การอนามัยโลก
เปิดเผยเมื่อวันที่
16
มี.ค.2563 ว่า เชื้อไวรัสสามารถแพร่ระบาดผ่านละออง
หรือของเหลวเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ผ่านทางการไอหรือจาม
เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่ในละอองลอย
โดย The New England
Journal of Medicine วารสารวิชาการทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษ เผยแพร่ข้อมูลการวิจัยเพื่อศึกษา เกี่ยวกับอายุของเชื้อ COVID-19 บนพื้นผิวต่างๆ เช่น ทองแดง, กระดาษแข็ง, Stainless Steel, พลาสติก
แต่ที่น่าสนใจคือ การมีอายุในอากาศที่อยู่ในรูปของ aerosol (Aerosol คือละอองฝอยที่มีขนาดเล็กกว่า 5
ไมครอน) เชื้อโควิด 19 จะอยู่ได้นานกว่า
3 ชั่วโมง
สำนักข่าว NHK
NEWS ของประเทศญี่ปุ่นได้นำเสนอรายการโทรทัศน์ การทดลองใช้กล้องพิเศษจับละอองฝอย
ที่กระจายออกจากปากคนจามเพียง 1 คน แค่ครั้งเดียว สามารถปล่อยละอองฝอยออกมาประมาณ 1 แสนอนุภาค
โดยการสนทนาพูดคุยกัน ก็สามารถเกิดละอองฝอยได้มากมายเช่นเดียวกัน
นายแพทย์มนูญ
ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โดยระบุว่า
มีข้อมูลล่าสุดสนับสนุนว่าผู้ป่วยโควิด-19 ระยะฟักตัวสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ
airborne transmission ไม่ต่างจากวัณโรค
โดยกรณีตัวอย่างที่สื่ออเมริกาลงข่าว
กลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่งที่รัฐวอชิงตัน จำนวน 45 คนจาก 60 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิต 2 คนภายใน 3 สัปดาห์
ทั้งที่ทุกคนที่มาร้องเพลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง วันที่ 10
มี.ค. 2563 ไม่มีใครไอ ไม่มีใครป่วย พวกเขาป้องกันตัวเองทุกอย่าง
ล้างมือ ยืนรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร
ไม่แตะตัวหรือแตะต้องสิ่งของอะไร
แต่ปรากฏว่าเมื่อสมาชิกนักร้องกลุ่มนี้แยกย้ายกันกลับบ้าน
บางคนเริ่มไม่สบายจนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 45
คนและป่วยเสียชีวิตไป 2 คน แสดงว่าขณะที่คนที่อยู่ในระยะฟักตัว
ร้องเพลงเปล่งเสียงสูงออกมามีละอองฝอย (droplet nuclei) ฟุ้งกระจายออกมา
เป็นละอองฝอยขนาดเล็ก ไม่ใช่น้ำลายหรือเสมหะ ละอองเล็กขนาดต่ำกว่า 5 ไมครอน ล่องลอยไปในอากาศ ทำให้คนที่อยู่ห่างออกไปไกลๆก็ติดเชื้อได้
ไม่ใช่จากการไอจามรดกัน หรือมีการสัมผัสเนื้อตัวหรือสิ่งของร่วมกัน
กรณีของป้าประเทศเกาหลีใต้ที่ไปร้องเพลงในโบสถ์เมืองแทกู
รายนั้นก็เป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (พาหะที่ทำให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้าง
เป็นผู้ที่สามารถแพร่เชื้อได้มากและเร็วกว่าคนทั่วไป) แพร่เชื้อให้กับสมาชิกของโบสถ์ที่ร่วมร้องเพลง 40-50 คนผ่านการเปล่งเสียงร้องเพลงเช่นกัน
หรือกรณีสนามมวยลุมพินีของไทย ก็มีการวัดไข้ และล้างมือทุกคนก่อนเข้าชมมวย
เซียนมวยคงอยู่ในระยะฟักตัวคนหนึ่ง
ตะโกนส่งเสียงเชียร์แล้วมีละอองฝอยออกมาล่องลอยไปติดคนอื่น 50-60 คน แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของเชื้อไวรัสตัวนี้ เชื้อโควิดติดต่อกันง่าย
และอันตรายกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า
ดร.พสุธ
รัตนบรรณางกูร Ph.D.
Chemical Engineering (Stanford University) ให้ได้คำแนะนำเกี่ยวการป้องกันการลดการติดเชื้อจากทางอากาศ ดังนี้
Aerosol (ละอองฝอยในอากาศ)
จึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนัก โดยเฉพาะในออฟฟิศ ที่ทำงาน ร้านอาหาร
ที่เป็นสถานที่ปิดและมีคนพูดคุย เช้าออกกันอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แต่ละคนสามารถทำได้เพื่อลดการติดเชื้อจากแอโรซอล
คือ
1. ใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเวลาจำเป็นเช่นการทานอาหารหรือดื่มน้ำ
2. ลดกิจกรรมหรือเลี่ยงการไปสถานที่มีการร้องแพลง หรือพูดคุยเสียงดัง และลดการพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าที่ไม่ได้สวมหน้ากาก
3. การใช้เครื่องกรองอากาศในห้องปิดช่วยได้มาก เพราะไส้กรอง HEPA สามารถกรองละอองฝอยเหล่านี้ได้ เป็นวิธีที่จะกำจัด Aerosol ได้เร็วที่สุด เครื่องกรองอากาศไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอให้มีไส้กรอง HEPA ก็จะกรองละอองพวกนี้ได้
1. ใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเวลาจำเป็นเช่นการทานอาหารหรือดื่มน้ำ
2. ลดกิจกรรมหรือเลี่ยงการไปสถานที่มีการร้องแพลง หรือพูดคุยเสียงดัง และลดการพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าที่ไม่ได้สวมหน้ากาก
3. การใช้เครื่องกรองอากาศในห้องปิดช่วยได้มาก เพราะไส้กรอง HEPA สามารถกรองละอองฝอยเหล่านี้ได้ เป็นวิธีที่จะกำจัด Aerosol ได้เร็วที่สุด เครื่องกรองอากาศไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอให้มีไส้กรอง HEPA ก็จะกรองละอองพวกนี้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น