วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2563

เชื้อ ‘COVID-19’ อยู่ในอากาศได้นานกว่าที่คิด



เชื้อ ‘COVID-19’ อยู่ในอากาศได้นานกว่าที่คิด



องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ว่า ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ สามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้นานกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้ จึงควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าฝ่ายโรคระบาดใหม่และโรคที่รับจากสัตว์ขององค์การอนามัยโลก เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 มี.ค.2563 ว่า เชื้อไวรัสสามารถแพร่ระบาดผ่านละออง หรือของเหลวเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ผ่านทางการไอหรือจาม เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องอยู่ในละอองลอย
โดย The New England Journal of Medicine วารสารวิชาการทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษ  เผยแพร่ข้อมูลการวิจัยเพื่อศึกษา เกี่ยวกับอายุของเชื้อ COVID-19 บนพื้นผิวต่างๆ เช่น ทองแดง, กระดาษแข็ง, Stainless Steel, พลาสติก แต่ที่น่าสนใจคือ การมีอายุในอากาศที่อยู่ในรูปของ aerosol (Aerosol คือละอองฝอยที่มีขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน) เชื้อโควิด 19 จะอยู่ได้นานกว่า 3 ชั่วโมง 





การทดลองของประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับละอองฝอยที่เกิดจากการจามและการสนทนา






สำนักข่าว NHK NEWS ของประเทศญี่ปุ่นได้นำเสนอรายการโทรทัศน์ การทดลองใช้กล้องพิเศษจับละอองฝอย ที่กระจายออกจากปากคนจามเพียง 1 คน แค่ครั้งเดียว สามารถปล่อยละอองฝอยออกมาประมาณ 1 แสนอนุภาค โดยการสนทนาพูดคุยกัน ก็สามารถเกิดละอองฝอยได้มากมายเช่นเดียวกัน

นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC โดยระบุว่า มีข้อมูลล่าสุดสนับสนุนว่าผู้ป่วยโควิด-19 ระยะฟักตัวสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสทางอากาศ airborne transmission ไม่ต่างจากวัณโรค
โดยกรณีตัวอย่างที่สื่ออเมริกาลงข่าว กลุ่มนักร้องประสานเสียงในโบสถ์แห่งหนึ่งที่รัฐวอชิงตัน จำนวน 45 คนจาก 60 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และเสียชีวิต 2 คนภายใน 3 สัปดาห์ ทั้งที่ทุกคนที่มาร้องเพลงเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง วันที่ 10 มี.ค. 2563 ไม่มีใครไอ ไม่มีใครป่วย พวกเขาป้องกันตัวเองทุกอย่าง ล้างมือ ยืนรักษาระยะห่าง 1-2 เมตร ไม่แตะตัวหรือแตะต้องสิ่งของอะไร แต่ปรากฏว่าเมื่อสมาชิกนักร้องกลุ่มนี้แยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนเริ่มไม่สบายจนตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 45 คนและป่วยเสียชีวิตไป 2 คน แสดงว่าขณะที่คนที่อยู่ในระยะฟักตัว ร้องเพลงเปล่งเสียงสูงออกมามีละอองฝอย (droplet nuclei) ฟุ้งกระจายออกมา เป็นละอองฝอยขนาดเล็ก ไม่ใช่น้ำลายหรือเสมหะ ละอองเล็กขนาดต่ำกว่า 5 ไมครอน ล่องลอยไปในอากาศ ทำให้คนที่อยู่ห่างออกไปไกลๆก็ติดเชื้อได้ ไม่ใช่จากการไอจามรดกัน หรือมีการสัมผัสเนื้อตัวหรือสิ่งของร่วมกัน
กรณีของป้าประเทศเกาหลีใต้ที่ไปร้องเพลงในโบสถ์เมืองแทกู รายนั้นก็เป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ (พาหะที่ทำให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้าง เป็นผู้ที่สามารถแพร่เชื้อได้มากและเร็วกว่าคนทั่วไป) แพร่เชื้อให้กับสมาชิกของโบสถ์ที่ร่วมร้องเพลง 40-50 คนผ่านการเปล่งเสียงร้องเพลงเช่นกัน หรือกรณีสนามมวยลุมพินีของไทย ก็มีการวัดไข้ และล้างมือทุกคนก่อนเข้าชมมวย เซียนมวยคงอยู่ในระยะฟักตัวคนหนึ่ง ตะโกนส่งเสียงเชียร์แล้วมีละอองฝอยออกมาล่องลอยไปติดคนอื่น 50-60 คน แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของเชื้อไวรัสตัวนี้ เชื้อโควิดติดต่อกันง่าย และอันตรายกว่าไข้หวัดใหญ่หลายเท่า

ดร.พสุธ รัตนบรรณางกูร Ph.D. Chemical Engineering (Stanford University) ให้ได้คำแนะนำเกี่ยวการป้องกันการลดการติดเชื้อจากทางอากาศ ดังนี้




Aerosol (ละอองฝอยในอากาศ) จึงเป็นสิ่งที่ควรตระหนัก โดยเฉพาะในออฟฟิศ ที่ทำงาน ร้านอาหาร ที่เป็นสถานที่ปิดและมีคนพูดคุย เช้าออกกันอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แต่ละคนสามารถทำได้เพื่อลดการติดเชื้อจากแอโรซอล คือ
1. ใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเวลาจำเป็นเช่นการทานอาหารหรือดื่มน้ำ
2. ลดกิจกรรมหรือเลี่ยงการไปสถานที่มีการร้องแพลง หรือพูดคุยเสียงดัง และลดการพูดคุยกับบุคคลแปลกหน้าที่ไม่ได้สวมหน้ากาก
3. การใช้เครื่องกรองอากาศในห้องปิดช่วยได้มาก เพราะไส้กรอง HEPA สามารถกรองละอองฝอยเหล่านี้ได้ เป็นวิธีที่จะกำจัด Aerosol ได้เร็วที่สุด เครื่องกรองอากาศไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ขอให้มีไส้กรอง HEPA ก็จะกรองละอองพวกนี้ได้ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สรุปงานที่สำคัญ ฝ่ายการโยธา กองช่างประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 64

สรุปงานที่สำคัญ ฝ่ายการโยธา กองช่างประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 64 -ซ่อม ​ ไฟ ​ 4แยก ​ บ้าน ​ กำ ​ นัน ​ -เขต2ตักขยะหลังโรงไฟฟ้า -เปลี่ยนห...